Monday, December 25, 2006

เทคนิคไร้สาระกะ อีเบย์ 10 ใช้วิชามารจัดการสินค้าที่ไม่อยากส่ง

เทคนิคไร้สาระกะอีเบย์ 10 ใช้วิชามารจัดการสินค้าที่ไม่อยากส่ง
ปัญหาเรื่องราคาค่าสินค้ากับเรื่องราคาค่าขนส่งเป็นปัญหาใหญ่ที่ พบได้บ่อยที่สุดทั้งมือใหม่ และมือเก่า เกิดขึ้นได้หลายสาเหตุเช่นความไม่รอบคอบ ของตัวผู้ขายเอง, ความใหม่ต่อโลกของ eBay, กลัวขายสินค้าไม่ได้บ้าง ฯลฯ ปัญหาที่เกิด เช่นคิดราคาค่าฝากส่งถูกเกินไป หรือตั้งราคาสินค้าต่ำเกินไป แล้วมีผู้ประมูลได้ เมื่อเกิดปัญหาเช่นนี้ขึ้นมา ให้ตัดสินใจแต่แรก เลย ว่า จะส่งของให้แล้วยอมขาดทุนหรือไม่ส่งของให้ลูกค้า แต่ไม่อยากได้ negative feedback เทคนิคที่แนะนำวันนี้ ไม่สามารถแก้ปัญหา neg feedback ได้ ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่สามารถบรรเทาลงและจะทำให้ลูกค้ามองเราในแง่ดี อาจจะได้ neg feedback, หรือ เฉย ๆ , ไม่ได้ feedback หรือ กระทั่งได้ positive feedback กลับมาเป็นไปได้ทุกอย่าง
ในกรณีที่ราคาค่าสินค้าถูกเกินไป ส่งไปแล้วขาดทุน หรือ ค่าฝากส่งต่ำเกินไป คือสินค้าราคาสูงแล้วคิดได้ภายหลังว่าถ้าส่งแบบลงทะเบียนธรรมดาแล้วไม่สามารถตรวจสอบการเดินทางของสินค้าได้ต้องคิดค่าฝากแบบ EMS, Fedex, UPS หรือ DHL ขึ้นไป แต่แจ้งราคาค่าฝากส่งสินค้าแก่ลูกค้าผิดทำให้สามารถส่งสินค้าให้ลูกค้าได้แบบ พัสดุย่อย หรือ พัสดุไปรษณีย์ ซึ่งไม่สามารถตรวจสอบการเดินทางของสินค้านั้นได้ ถ้าคิดว่าบอกลูกค้าได้โดยตรงแล้วไม่มีปัญหา ข้อให้บอกลูกค้าโดยตรง แล้วข้ามขั้นตอนต่อไปนี้ได้เลย แต่ถ้าคิดว่าน่าจะมีปัญหา ลองใช้วิธีต่อไปนี้ในการแก้ปัญหา
เริ่มจาก เมื่อได้ รับเงินค่าสินค้า รวมค่าฝากส่งสินค้าเรียบร้อยแล้ว เมื่อจะจัดส่งสินค้าให้ลูกค้าแล้วคิดได้ว่าการส่งสินค้าครั้งนี้มีปัญหาแน่ ๆ ทั้งเรื่องการขาดทุน หรือ กลัวสินค้าหาย หรือ สินค้าไม่หายแต่กลัวลูกค้าเล่นแง่ รับของแล้ว บอกไม่ได้รับ ไม่สามารถเช็คได้ในหลาย ๆ ประเทศ เช่น อิตาลี, สเปน, ฝรั่งเศส, เยอรมัน ฯลฯ
ให้ email แจ้งลูกค้าว่าได้รับเงินเรียบร้อยแล้ว ทางเราจะจัดส่งสินค้าให้แก่ลูกค้าโดยเร็วที่สุด
หลังจากนั้น 2-3 วันแจ้งลูกค้าว่าได้จัดส่งสินค้าให้ลูกค้าแล้วคาดว่าสินค้าจะถึงในเร็ววันนี้ แต่เราไม่ต้องส่งสินค้าไปให้ลูกค้า (ถ้าเป็นไปได้ให้ scan ใบเสร็จ ๆ เก่า ๆ ที่ มีอยู่ แล้วแก้ไข วันที่ และ ชื่อที่อยู่ พร้อมประเทศปลายทางแล้วจัดส่งให้ลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจว่าได้จัดส่งสินค้าให้แล้ว)
หลังจากนั้นทิ้งเวลาไว้สัก 7 – 10 วัน ให้ email ไปถามลูกค้าว่า ได้รับสินค้าหรือยัง ชอบหรือไม่ ถ้าชอบ กรุณาให้ feedback ด้วย แล้วเราก็จะให้ feedback เหมือนกัน เพราะเราไม่สามารถ เช็ค ว่าสินค้าถึงหรือไม่ถึงได้จาก track ที่เรามีอยู่ได้
ในกรณีที่ลูกค้าตอบมาว่ายังไม่ได้รับสินค้า หรือเงียบหายไป อีกประมาณ 2-3 วัน ก็ให้ email ไปถามลูกค้าอีก ว่าได้รับสินค้าหรือยัง ถ้าได้รับแล้วช่วยกรุณา ให้ feedback ด้วย
ทิ้งเวลาไว้อีก 1-2 วัน ให้สอบถามลูกค้าว่าได้รับสินค้าหรือยังถ้าไม่ได้ ทางเราจะทำการสอบสวนซึ่งคงใช้เวลาสักพัก หนึ่งโดยในระหว่างนี้เราจะคืนค่าสินค้าพร้อมค่าฝากส่งสินค้าให้ลูกค้าก่อน แล้วเราก็คืนค่าสินค้าพร้อมค่าฝากส่งสินค้าให้ทางลูกค้า โดยทันที
แจ้งลูกค้าว่าได้คืนสินค้าและค่าฝากส่งสินค้าให้ลูกค้า แล้ว และทางเราได้ทำเรื่องสอบสวนแล้วอาจจะเป็นไปได้ว่าสินค้าหายระหว่างทาง ในกรณีที่เราเก็บค่าฝากส่งขาด ให้สอบถามลูกค้าไปว่า ยังอยากได้สินค้าของเราอยู่ไหม ถ้าอยากได้เราอยากให้ลูกค้าส่งเงินค่าสินค้ากับค่าฝากส่งใหม่ ที่เป็นค่าฝากส่งแบบ EMS หรือ แบบอื่นที่สูงกว่ามาให้เพราะ ทางเรากลัวสินค้าจะหายอีก ถ้าลูกค้าได้รับสินค้า 2 ชิ้น ก็ให้ส่งคืนสินค้ามาให้เรา 1 ชิ้น โดยเราเป็นผู้ออกค่าฝากส่งเอง (ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้เพราะเราส่งสินค้าให้ลูกค้าชิ้นเดียว)ถ้าลูกค้าจ่ายเงินมาให้ใหม่ก็จัดส่งให้ถูกต้องต่อไป แต่ ถ้าลูกค้าไม่จ่ายหรือเงียบไป ก็รอลุ้นว่าจะได้ neg feedback หรือ positive feedback หรือไม่ได้อะไรเลยกันต่อไปแล้วค่อยแก้ปัญหาเอาข้างหน้า
ในกรณีที่คิดค่าสินค้าผิดคือ สินค้าราคาแพง แต่ลูกค้าประมูลได้ในราคาต่ำ ก็ให้ทิ้งเวลาไว้อีกสัก 10 วันขึ้นไปแล้วแจ้งแก่ลูกค้าเช่นเดียวกันว่า อาจจะเป็นไปได้ว่าสินค้าหายระหว่างทาง ช่วยกรุณาให้ feedback บวก กับเราด้วยเพราะ เราได้ส่งสินค้าให้ลูกค้าแล้วตามใบเสร็จ(ปลอม)ที่ส่งให้ แล้วเราจะให้ feedback ลูกค้ากลับ เช่นกัน กรณีนี้ห้ามลงประกาศขายสินค้าชิ้นนี้อีก ภายในระยะเวลา 3 เดือน เพราะ เมื่อลูกค้าเห็นสินค้าขึ้นมาแล้วร้องเรียนกับทาง eBay จะเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาอีกถ้าต้องการขายสินค้าชิ้นนี้จริง ๆ ให้ฝากผู้อื่นช่วยขายให้หรือ เปิดบัญชี eBay อีก บัญชี สำหรับขายสินค้าชิ้นนี้
เทคนิคเช่นนี้ ไม่สามารถที่จะทำให้ลูกค้าให้ feedback บวกกับเราได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เป็นการสร้างภาพลักษณ์ให้ลูกค้ามองเราในแง่ดี ในกรณีที่ลูกค้าให้ neg feedback แก่เราก็ให้เราทำใจเพราะว่าจริง ๆ แล้วเราก็รู้ว่ามันเป็นความผิดของเรา อย่างไรเสียการได้ neg feedback ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ถึงขนาดโลก ถล่มทลายเสียทั้งหมด ให้เราเข้าไปชี้แจงว่า เราได้ส่งสินค้าให้ลูกค้าแล้วแต่ สินค้าหายทั้งนี้เราได้คืนค่าสินค้าและค่าฝากส่งให้ลูกค้าทันทีแล้ว เมื่อลูกค้าอื่นเห็น feedback เราก็คงมองเราในแง่ดีบ้าง ส่วนเราจะให้ feedback อะไรแก่ลูกค้าก็แล้วแต่ความคิดของแต่ละคน อาจให้ neg feedback หรือ positive feedback หรือ ไม่ให้เลยก็ได้ เป็นสิทธิ์ของผู้ขายแต่คนที่จะทำได้ ให้คำนึงถึงว่าเหตุการณ์นี้เป็นความผิดของเรา ถ้าเป็นเราบ้างจะรู้สึกอย่างไร และอย่าพยายามใช้เทคนิคนี้บ่อย ๆ เพราะ ถ้าเกิดพลาดท่าเสียทีแล้ว eBay คงไม่เอาเราไว้แน่ ทั้งเรื่องปลอมเอกสารหรือได้รับการร้องเรียนจากลูกค้าหลาย ๆ คนเรื่องไม่จัดส่งสินค้าให้ ให้พยายามคิดคำนวณ ค่าฝากส่งและค่าสินค้าให้รอบคอบก่อนลงประมูลและลงขายสินค้าทุกชิ้น เทคนิคนี้ให้นำมาใช้ในยามที่หาทางออกไม่ได้แล้วจริง ๆ และขอให้เป็นไม้ตายสุดท้ายที่นำมาใช้กับลูกค้า

Sunday, December 24, 2006

ถึงเวลาเปิดร้านใน อีเบย์ หรือ ยัง

เทคนิคไร้สาระกะ อีเบย์ 9 ถึงเวลาเปิดร้านใน อีเบย์ หรือ ยัง
การเปิดร้านใน อีเบย์ หรือ ไม่เปิดร้านเพียงแต่ส่งสินค้าเข้าประมูล อย่างไหน ดีกว่ากัน คำถามที่พบ เห็น กันบ่อย ๆ ใน web board เกี่ยวกับ อีเบย์ ทั่วไป การเปิดร้านใน อีเบย์ หรือไม่เปิดร้านนั้น สมควรดูที่สินค้าที่ลงขายใน อีเบย์ ถ้าสินค้าของคุณเป็นที่ต้องการของตลาด ลงขาย 5 ชิ้น ก็ขายได้หมด ลงขาย 10 ชิ้น ก็ขายได้ 9 ชิ้นหรือ ถ้าคุณมีสินค้าอยู่ในมือประมาณ 20 ชิ้น ก็ไม่มีความจำเป็นต้องเปิดร้านค้าบน อีเบย์ ให้เสียเงินค่าเช่าร้าน ซึ่งเก็บขั้นต่ำเดือน $15.95 ซึ่งเมื่อเทียบเป็นเงินไทยแล้วก็ไม่ใช่น้อย เมื่อคุณขายสินค้าบน อีเบย์ ได้สักพัก หนึ่ง หาสินค้ามาขายได้เรื่อย ๆ ขายได้บ้างไม่ได้บ้างมีสินค้าที่อยู่ในมือ ประมาณ 30 ชิ้นขึ้นไปราคาขายอยู่ที่ เฉลี่ย ประมาณ 15 เหรียญ ก็สมควรเปิดร้านให้เป็นเรื่องเป็นราว บน อีเบย์ เพื่อ ที่จะง่ายในการควบคุมสินค้า เพราะเมื่อคุณเปิดร้านค้าบน อีเบย์ ก็จะมีระบบจัดการให้ซึ่งแถมมากับร้านค้าซึ่งง่ายต่อการใช้งาน ไว้สำหรับจัดการ ส่ง email แจ้งลูกค้าเป็นระยะ ๆ,ไว้สำหรับนำสินค้าขึ้นประมูลใหม่, ดูสถิติการขายในรอบเดือนรอบสัปดาห์ที่ต้องการทำเป็นกราฟ ให้เห็นเด่นชัด ฯลฯ เป็นอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และประหยัดเวลาให้กับผู้ขาย บน อีเบย์ได้อย่างมาก
การเปิดร้านค้าบน อีเบย์ ถ้าสินค้าคุณมีหลายแบบ หลายลายให้เลือกก็เหมาะที่จะเปิดร้าน เช่นถ้าคุณขายเสื้อที่สกรีน แบบ สกรีนลายเอง คุณมีสัก 30 แบบ คุณก็เปิดร้านค้า แล้วก็ เอาสินค้าที่คุณมี ขึ้นประมูล อาจจะเป็น วันละ 3 ชิ้น 5 ชิ้น หรือ อาทิตย์ ละ 2 วัน วันละ 5 ชิ้น ก็แล้วแต่ความต้องการของลูกค้าและการตัดสินใจของคุณ
เทคนิคนี้เป็นเทคนิคแก้ปัญหาเกี่ยวกับการลงรายการสินค้าแบบประมูลซึ่งบางครั้งเราลงรายการเรียบร้อยแล้วแต่ไม่สามารถค้นหาสินค้าเราได้ ในกรณีนี้ให้ ติดต่อ live help ทันทีซึ่งจะเป็นการติดต่อchat กับพนักงาน อีเบย์ โดยปุ่ม live help จะอยู่ในหน้าแรก อยู่เยื้องไปทางด้านบนขวามือตัวเล็ก ๆ บางครั้ง ทาง live help จะสามารถแก้ปัญหาให้เราได้แต่บางครั้ง ก็แจ้งว่าอาจใช้ เวลา 6 ชั่วโมงหรือ 12 ชั่วโมง ถึงจะทำการค้นหาสินค้าของเราได้ ซึ่งถือเป็นการเสียโอกาสของเรา เทคนิคที่นำมาใช้คือ ให้เอาสินค้าที่มีอยู่ในร้านของเราบน อีเบย์ นำขึ้นประมูลแล้วใช้วิธี แก้ไข description แทน จะใช้เวลา เร็วกว่า ที่จะทำการลงรายการสินค้าขายแบบประมูลขึ้นมาใหม่ ซึ่งปัญหานี้เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่ทาง อีเบย์ไม่สามารถแก้ปัญหาให้เราได้
เมื่อเราจ่ายเงินค่าลงรายการสินค้าเป็นเพื่อลงขายสินค้าเป็นระยะเวลาเท่าไร แล้ว ก็สมควรได้ลงเวลาขายให้เราเต็มเวลากับเงินที่เราจ่ายไป การจ่ายเงินสำหรับการลงขายสินค้าเป็นเงินสำหรับ 7 วันก็สมควรลงให้ลูกค้าได้เห็นสินค้าเรา 7 วันเต็ม แต่บางทีกลับเป็นเวลาเพียง 6 วันกว่า ๆ เท่านั้นที่ลูกค้าสามารถเห็นสินค้าของเรา ปัญหานี้เราสามารถแก้ปัญหาเองได้ด้วยวิธีนี้ ซึ่งจะไม่ทำให้เราเสียโอกาสในการขายสินค้า มีโอกาสให้ลูกค้าเข้าเลือกซื้อสินค้าเราเต็มเวลาถึงแม้จะขายสินค้าได้หรือไม่ได้ก็ตามแต่ก็รู้สึกว่าไม่เสียสิทธิ์ที่ควรจะได้จากอีเบย์

Saturday, December 23, 2006

เทคนิคไร้สาระกะ อีเบย์ 8 เตรียมพร้อมปิดบัญชี Paypal เสมอ

เทคนิคไร้สาระกะ อีเบย์ 8 เตรียมพร้อมปิดบัญชี Paypal เสมอ
การค้าขาย บน eBay นับเป็นอาชีพที่สุจริต ทำรายได้ได้ดี ถ้าตั้งใจและทุ่มเท การทำงานถ้าวางระบบการทำงานตั้งแต่แรก แล้วนับเป็นงานที่ถือได้ว่าสบายอีกอาชีพหนึ่ง หรือถ้าทำเป็นอาชีพเสริมก็ถือว่าเป็นอาชีพเสริมที่สร้างรายได้ให้พอสมควร อุปสรรค นานัปการทั้งหลายทั้งปวงนั้น พอจะฝ่าฟันกันไปได้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาษาอังกฤษ, การเขียน description, การตกแต่งภาพถ่าย, โปรแกรมเสริมต่าง ๆ แต่สิ่งที่ถือเป็นอุปสรรคชิ้นใหญ่ ที่หาทางแก้ไขอย่างไรก็ไม่สามารถแก้ได้นั่นคือการไม่มีเหตุผลของ eBay
ถ้าคุณเป็นคนขายสินค้าบน eBay แล้ว สิ่งหนึ่งที่จำเป็นที่จะต้องเตรียมตัวไว้เสมอคือ การปิดแผง แล้วย้ายหนี เหตุผลเพราะ eBay รับฟังทุกคำกล่าวหาของผู้ซื้อ คือเพราะ eBay ถือว่าผู้ซื้อเป็นใหญ่ ไม่ว่าคุณจะขายของแท้ ซื้อต่อมาจากเจ้าของที่แท้จริง มีใบรับประกันหรืออะไรก็แล้วแต่ ถ้า eBay ได้รับการร้องเรียนจากลูกค้าเมื่อไหร่ สิ่งที่ eBay จะทำคือ แขวนคุณไว้ก่อน ซึ่งก็คือ คุณไม่สามารถจะขายสินค้า ได้ชั่วคราว ถ้าคุณมีเหตุผลหรือหลักฐานไม่ดีพอ คุณก็ไม่สามารถที่จะขายของต่อบน eBay ได้ สำหรับเรื่อง Paypal นั้น ถ้าคุณมีเงินอยู่ใน Paypal ก็ต้องเตรียมหลักฐานเอกสารให้พร้อมเสมอ มิเช่นนั้น คุณก็ไม่สามารถถอนเงินออกจาก Paypal หรืออาจจะต้องรอ 90 วัน หรือ 180 วันถึงจะถอนเงินออกจาก Paypalได้เช่นกัน
ปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าว ทาง eBay ไม่เคยคิดแก้ไข ซึ่งเมื่อดูแล้วจะเห็นความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้นกับผู้ขายเป็นส่วนใหญ่ บทความที่กล่าวถึงนี้เพียงแต่จะชี้จุดบกพร่องของ eBay และให้ท่านที่จะก้าวเข้ามาหรือท่านที่ค้าขายกับ eBay อยู่แล้วนั้นระวังตัวไว้อย่าตกลงสู่ความเสียเปรียบกับทั้งทาง ลูกค้า และ กลโกงของผู้ที่เข้ามาในคราบของลูกค้า
การค้าขายบน eBay ถ้าขายสินค้าที่ราคาไม่แพงเท่าไหร่ ยังพอทำใจกันได้ แต่ถ้าขายของราคา 400 USD ขึ้นไปแล้ว นับว่าเริ่มก้าวเข้าสู่ความเสี่ยงพอสมควร การส่งสินค้าที่ราคาสูง ๆ ตั้งแต่ราคา 100 USD ขึ้นไปสมควรส่งแบบ รับประกันทุกครั้ง เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นทุกกรณี ถ้าเป็นไปได้ให้ส่งของทาง บริษัท DHL, UPS และ Fedex ดีกว่าบริษัทฯของไทยเพราะได้รับความเชื่อถือมากกว่า และสามารถ ตรวจสอบการเดินทางได้ตลอดเวลา การรับเงินจากลูกค้าทาง Paypal ถือว่ามีความเสี่ยงค่อนข้างสูง ถ้าส่งสินค้าให้ลูกค้า ก็เริ่มก้าวเข้าสู่ความเสี่ยงตั้งแต่ก้าวแรก จนถึงสินค้าจะถึงมือลูกค้าแล้วก็ตามลูกค้าสามารถถอนเงินคืนได้ตลอดเวลา จนกว่าลูกค้าจะพอใจเต็มที่และให้ feedbackแล้วนั่นแหละความเสี่ยงถึงจะหมดไป แนวทางป้องกันปัญหาตั้งแต่แรก คือ พยายามถ่าย คลิป วีดีโอ ไว้ตั้งแต่เริ่ม ห่อสินค้า จนถึงส่งเข้าสู่ทางไปรษณีย์ หรือ บริษัทจัดส่งสินค้าระหว่างประเทศ

Friday, December 22, 2006

เทคนิคไร้สาระกะ อีเบย์ 7 ของดี ฟรี ใครว่าไม่มีในโลก วันนี้จะมากล่าวถึง site ดี ๆ ที่รองรับ ระบบของ eBay โดยตรง site ดังกล่าวสามารถ ทำ template ใน description ให้มีรูปแบบที่สวยงามมีให้เลือกหลายรูปแบบ, เป็นที่เก็บรูปภาพฟรี, สามารถ list รายการของ eBay ได้ , ปรับเปลี่ยน template ได้ยืดหยุ่น กว่า turbo lister ที่เป็นที่ชื่นชอบ ถึงขั้นต้องกล่าวสรรเสริญไว้ ในที่นี้คือ สามารถทำ slide โชว์สินค้าใน หน้า description ของเราได้ และ ตั้งเวลา list สินค้าบน eBay ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ไม่เสียเงิน คือ ฟรี site ดังกล่าวคือ http://www.auctiva.com

การที่ จะมีใครสักคนหนึ่งในโลก click เข้าหน้าขายสินค้าบน eBay ของเรานั้นเพราะเขาสนใจในสินค้า ไม่ว่าเขาคนนั้นจะซื้อสินค้าของเราชิ้นนั้น หรือ ไม่ แต่เขาก็สนใจที่จะเข้ามาดูรายละเอียดสินค้าของเรา เพื่อมิให้เป็นการเสียโอกาส ในการเยี่ยมชมสินค้า เราสมควรเสนอสินค้าที่เรามีอยู่ ให้ลูกค้ารับทราบว่าเรามีสินค้าอะไรบ้างอยู่ในร้านค้าของเรา โดยใช้ตัวช่วยที่ให้มาใน site นี้ ปรับแต่ง แล้วก็ copy วางไว้ส่วนไหนก็ได้ของ description ของสินค้าของเรา ซึ่งสามารถดึงดูดความสนใจได้ดีกว่าการเป็นภาพธรรมดาที่ไม่เคลื่อนไหวหรือ วางไว้ตอนท้ายของหน้าซึ่ง eBay ได้จัดเนื้อที่ให้เราโฆษณา อยู่แล้ว การใช้งานไม่ได้ยาก อะไร เพียงสมัครลงทะเบียน แล้ว เมื่อ login แล้วเข้าไปที่ store และ edit items ลองจับ ๆ ดู ลูบๆ คลำ ๆ ไม่น่าเกิน 3 ชั่วโมง สามารถมี slide ไว้โชว์ลูกค้าอย่างมืออาชีพและ ไม่อายใคร อีกส่วนหนึ่งบน site นี้อยากแนะนำให้ลองใช้กันดู และ ติดใจมากคือ การตั้งเวลาลงขายสินค้าได้ เนื่องจาก site eBay นั้นตั้งอยู่คนละมุมโลก กับประเทศไทยอันเป็นที่รักยิ่งของเรา การที่เราต้องการลงสินค้าเพื่อที่จะเมื่อเวลาหมดเวลาประมูลจะเป็นเวลาที่ผู้คนในอีกมุมโลกนึงตื่นอยู่และใช้เวลาในการท่องเนต เป็นจำนวนมากนั้น ก็จะเป็นเวลาที่เราสมควรหมกอยู่ภายในผ้าห่มของเราเสียมากกว่า การตั้งเวลาให้ลงสินค้าของเราในช่วงเวลาที่เรานอนอยู่นับว่ามีประโยชน์สูงสุดในการบริหารเวลา หรือถ้าจะกล่าวอย่างแจ่มแจ้งคือ เหมาะสำหรับเรา ๆ ที่ขี้เกียจทั้งหลาย การตั้งค่าก็ไม่มีอะไร มาก แค่ จับ ๆ ลูบ ๆ คลำ ๆ ภายใน 3 ชั่วโมง ก็สามารถใช้งานได้ ซึ่งถือว่าคุ้มค่ามากที่ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกของ website นี้ ซึ่งถ้าเทียบกับ turbo lister แล้วมีความยืดหยุ่นสูงกว่า turbo lister และ ไม่ต้องเสียเงิน ให้กับ eBay อีกด้วย

Thursday, December 21, 2006

เทคนิคไร้สาระกะอีเบย์ 6 ใช้ google เพื่อช่วยยกระดับภาษาอังกฤษ

เทคนิคไร้สาระกะอีเบย์ 6 ใช้ google เพื่อช่วยยกระดับภาษาอังกฤษ
ต้องขอออกตัว “เอี๊ยด……” ก่อนว่า เป็นคนปกติเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ ชอบอยู่ฝั่งจำนวนมากมาแต่ไหนแต่ไรรู้สึกว่าอบอุ่น ตอนเด็ก ๆ เล่นเกมส์กันแบ่งเป็น 2 ฝ่าย เมื่อคนเหลือ ก็จะได้เป็นตัวแถม ไปอยู่ข้างมากกว่าอีกฝ่ายหนึ่งเสมอ หรือว่าสมัยวัยรุ่นยกพวกตีกัน ถ้าจำนวนสัก 2-3 คน จะยกพวกไปตีกับเค้าไม่ไปแน่นอนไม่สบายครั่นเนื้อครั่นตัว กลับบ้านดีกั่ว แต่ถ้าจำนวน 10 คนขึ้นไปจะไปตีกับใคร ก็จะขอไปด้วย อุ่นใจดี นิสัยนี้ทำให้ติดตัวมาใช้ในทุก ๆ เรื่องรวมถึงเรื่องภาษาอังกฤษ เพราะ จำนวนผู้ไม่รู้ภาษาอังกฤษในประเทศไทยมีจำนวนมาก กว่าผู้รู้ภาษาอังกฤษ คิดดูหลายตลบ แล้วเลือกอยู่ฝ่ายไม่รู้ภาษาอังกฤษจะดีกั่ว คนเยอะดี อยู่แล้วอบอุ่น แต่จากประสบการณ์เลยทำให้มีข้อได้เปรียบหลาย ๆ ประการ เช่นตอนเด็ก ๆ เรียนโรงเรียน คริสต์ ซึ่งสอนภาษาอังกฤษตั้งแต่ เด็ก ๆ โตขึ้นมาหน่อยก็เรียนโรงเรียนที่ขึ้นชื่อว่าเก่งในเรื่องภาษาต่างประเทศ แต่ดันไปเรียน ภาษาฝรั่งเศสซะงั้น เอาตัวรอดจากโรงเรียนมาได้ก็สุดยอดในชีวิตแล้ว เคยทำงานที่เชียงใหม่และที่ภูเก็ตซึ่งได้ติดต่อสื่อสารกับฝรั่งอยู่บ่อย ๆ เคยมีเพื่อน และ นายจ้างเป็น ฝรั่ง แต่ทุกอย่างที่บอกมานั้น ใช้ ภาษาพูด กับภาษามือล้วน ๆ การค้าขายบน eBay นั้น ไม่ได้ใช้ภาษาพูดหรือภาษามือเลย การค้าขาย บน eBay ส่วนประกอบคือ ภาษาอังกฤษ สิ่งที่จะพาให้เราประสบผลสำเร็จมากที่สุดคือ ไวยากรณ์ เพื่อที่เราจะได้ดูเหมือนเป็นมืออาชีพ ถ้าจะผิดต้องตั้งใจผิด จะ”ดีกั่ว” ผิดแล้วยังไม่รู้ว่าตัวเองผิด
การใช้ dict online ทั้งหลายนับเป็นส่วนดีที่จะพัฒนา ภาษาอังกฤษ แต่ เรื่อง ไวยากรณ์นั้น dict ที่มีอยู่ทั้งหมด ก็ไม่ได้ช่วยให้ ไวยากรณ์ ภาษาอังกฤษดีขึ้นเลย และแล้ว google ก็เข้ามาช่วยในจุดนี้ หลาย ๆ ท่านคงนึกดีใจว่าปัจจุบัน google ได้ออก โปรแกรม แปลภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ ทั้งประโยคแล้ว หรือว่า แปลภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยทั้ง ประโยค หรือ ทำทั้ง สองอย่าง ยังครับ ยังทั้งหมด สิ่งที่ google search ทำได้ คือ สามารถ search คำที่มีอยู่ใน web page ที่ อยู่ใน directory ของ google ได้ วิธีการ คือคิดประโยคที่คาดว่าจะถูกต้องขึ้นมาก่อนแล้วใส่ เครื่องหมายคำพูดลงใน ประโยคที่ต้องการค้นหา แล้วใส่เข้าไปใน search box ของ google เช่น “thank you for your kindness” กับ “thank you for you kindness” และ
“thanks for your kindness” ผลที่ออกมา คือ thank you for your kindness นั้นมีข้อมูลการค้นหามากกว่า เราก็เลือกที่จะใช้ประโยคนี้ในการโต้ตอบ email กับลูกค้าเรา นับว่าเป็นการแก้ปัญหาเรื่องไวยากรณ์ภาษาอังกฤษไปได้บ้าง ถ้าคำที่คิดออกมาแล้ว search ผล การ search ออกมาน้อยเกินไป ก็ให้ข้ามไป แล้วจัดเรียง รูปประโยคให้ แต่ใช้ ศัพท์ตัวเดิม จนกว่าจะได้ ข้อมูลที่ค้นหามาได้เป็นหลักพันขึ้นไปจึงมั่นใจได้ว่าประโยคที่แต่งขึ้นมานั้นไม่ผิดไวยากรณ์
อย่างไรเสียบทความชิ้นนี้คงทำประโยชน์ให้ได้บ้าง ในการค้าขาย บน eBay ที่จำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร ก็คงต้องหาทางเรียนรู้ในช่องทางที่ถูกต้องต่อไป

Wednesday, December 20, 2006

เทคนิคไร้สาระกะอีเบย์ 5 การหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรอย่างหน้าไม่อาย

เทคนิคไร้สาระกะอีเบย์ 4 การหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรอย่างหน้าไม่อาย
ย้ำเตือนกันอีกสักครั้งว่าเทคนิคต่าง ๆ เหล่านี้ได้พัฒนาขึ้นเอง และได้ทดลองใช้แล้วประสบผลสำเร็จมาแล้วกับตัวเองจึงได้รวบรวมไว้เป็นหมวดหมู่ให้ได้หยิบฉวยไปใช้กัน ไม่เข้าใจหรืออยากรู้ตรงไหนก็ Comment กันมา จะพยายามตอบให้แจ่มแจ้งกันเป็นราย ๆ ไป นี่เป็นอีกเทคนิคหนึ่งที่ค่อย ๆ พัฒนา (ใบหน้า) มาจนถึงขั้นสูงสุด
สืบเนื่องมาจากการ ค้าขาย บน eBay นั้น พอเรา ค้าขาย บน eBay มาได้สักพักเมื่อเวลา ถอนเงิน ออกจาก Paypal ก็ต้องเสียเวลาในการถอน อย่างต่ำ 5 วันทำการ ซึ่งก็จะได้ยอดเงินมาก้อนหนึ่ง แต่ถ้าเราต้องการให้เกิดประโยชน์สูงสุดจริงๆ เราน่าจะ สั่ง สินค้า ใน eBay เข้ามาขายต่อในประเทศไทย หลังจาก ประมูล บ้าง ซื้อ สินค้า บน eBay บ้างมาได้ พักหนึ่ง เมื่อเวลา สินค้า จาก eBay ส่งกลับเข้ามาให้ประเทศไทย สินค้าบางชิ้นก็จะถูกศุลกากร ประเมิน ภาษี การเสียภาษีกับ ศุลกากรนั้น เนื่องจาก ทาง ศุลกากร มีพิกัด อยู่แล้ว การต่อรองด้วยปาก จึง ไม่เคยประสบผลสำเร็จเลย แม้สักครั้งเดียว ทำให้กำไรที่สมควรจะได้รับลดน้อยลงไป ได้พยายามพัฒนาวิธีที่จะทำให้เกิดกำไรสูงสุด และค้นพบทางออกที่ดีที่สุดคือ การทำให้ศุลกากร ไม่เก็บภาษีสินค้านำเข้า หรือ เก็บภาษีแต่น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ หลังจาก พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับศุลกากร จึงได้พัฒนาวิธีการนี้ขึ้นและสามารถใช้ได้จนถึงปัจจุบัน ทำให้อัตราการเก็บภาษีจากสินค้าที่ส่งมาจากต่างประเทศ ลดลงจากประมาณ 4-5 ชิ้น ต่อ การเก็บภาษี 1 ครั้ง มาเป็น 10-15 ชิ้นต่อการเสีย ภาษี 1 ครั้ง
วิธีการก็คือ เมื่อตัดสินใจจะซื้อสินค้าชิ้นใดจากผู้ขายแล้ว ให้ email ไปถามผู้ขายว่า จะสั่งสินค้าชิ้นดังกล่าว โดย จัดส่งสินค้าไปปลายทางประเทศไทย หรือไม่ , ไม่ต้องแนบใบ invoice ในตัวสินค้าได้หรือไม่, สามารถเขียนคำว่า gift บนตัวห่อซองได้หรือไม่, สามารถ แนบ กระดาษที่เราส่งให้ผู้ขายแล้ว print ใส่ห่อซองได้หรือไม่ ซึ่งผู้ขายส่วนมาก ตอบกลับมาว่าสามารถทำให้ได้ด้วยความเต็มใจยิ่ง หลังจากนั้นให้เราจัดพิมพ์ข้อความ จาก Ms Word หรือ notepadเป็นภาษาไทย แล้ว ใช้วิธี print screen เอาไปวางไว้บนโปรแกรม ตัดแต่งรูปภาพทั้งหลาย ตัดเอาเฉพาะคำที่ต้องการไว้ แล้ว save เป็น file รูปภาพ นามสกุล gif หรือ jpg หรือ jpeg พิมพ์เป็นอักษร ตัวโต จะติดรูป น่ารัก ๆ ลงไปด้วยก็ได้ เมื่อ ผู้ขาย จะ ทำการห่อสินค้าส่งให้เราให้ใส่กระดาษที่ print นี้ส่งให้เราด้วย เมื่อดำเนินขั้นตอนเสร็จสิ้นก็ให้สบายใจว่า สินค้าที่ส่งมาให้เราถ้าถูกสุ่มตรวจก็อาจจะไม่โดนประเมิน ภาษี ถึงจะโดนภาษีก็จะน้อยกว่าทั่วไป เพราะเมื่อศุลกากรเปิดตรวจห่อซองของเรา ท่านไม่ได้พบบัตรเบ่งหรือการแอบอ้างว่าสินค้าดังกล่าวเป็นของใครทั้งนั้น เพียงแต่ให้เราพิมพ์เป็นภาษาไทยแล้วส่งเป็นไฟล์รูปภาพไปให้ ผู้ขายพิมพ์ออกมาใส่ในห่อซองก็คือ “สุขสันต์วันเกิดนะลูก ปีนี้พ่อกลับบ้านไม่ได้มีความสุขมาก ๆ ”

Tuesday, December 19, 2006

เทคนิคไร้สาระกะอีเบย์ 4 การใช้ Picasa ตกแต่งภาพประกอบ

เทคนิคไร้สาระกะอีเบย์ 4 การใช้ Picasa ตกแต่งภาพประกอบ
สำหรับการขายสินค้า บน อินเตอร์เนต แล้ว ภาพประกอบนับเป็นส่วนสำคัญอย่างมากของผู้ขาย เพราะรูปภาพสามารถบอกเล่าอะไรได้มากมายหลายอย่าง คนเราไม่ได้มีความสามารถหลากหลายเก่งไปซะหมดทุกเรื่อง เพราะฉะนั้นถ้าเรามีความรู้เรื่องภาษานิดหน่อย เข้าใจการเขียน html นิดหน่อย ถ่ายรูปออกมาพอชัดบ้างไม่ชัดบ้างก็ช่างมัน ใช้โปรแกรมตกแต่งรูปพอเป็นบ้าง แล้วก็มี Blog ดีดีอยู่ข้างกาย แค่นี้เราก็สามารถโลดแล่นทำธุรกิจกับ eBayได้อย่างเต็มภาคภูมิแล้ว สำหรับท่านที่ถ่ายรูปได้แจ่มแจ๋วสวยงามให้ข้าม บทความนี้ไปได้เลย ส่วนท่านที่ ใช้ Photoshop เป็นอย่างเซียนก็เช่นกันขอให้ข้าม บทความนี้ไปเช่นกัน หรือถ้าจะให้ดีเขียน เป็น Blog เผยแพร่ ความรู้ด้วยก็จะดียิ่งขึ้น บทความนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้กล้องดิจิตอล และใช้นิ้วกดชัตเตอร์เป็นอย่างเดียว เมื่อเอารูปมาดูก็ชัดบ้างเบลอบ้าง ก็คัดเอาแต่รูปที่ชัด ๆ มาตกแต่งเอา ที่แนะนำเอา Picasa นั้น เพราะโปรแกรมนี้เป็นโปรแกรมที่ใช้งานง่าย มีประโยชนมากในการค้นหารูปในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา ดูรูปได้เป็นจำนวนมาก ๆ ในแต่ละครั้ง ใช้งานภาษาไทยได้ หาได้ง่าย และ ที่สำคัญที่สุดคือ ฟรี
ความสามารถ ของ Picasa นั้นค่อนข้างจะเป็น เป็ด คือ ทำได้หลายอย่าง แต่ก็ไม่ได้ดีเลิศเลอ สักอย่าง แต่ก็พอเพียงที่จะนำมาใช้ตกแต่งรูป เอาไปใช้ใน eBay ที่เห็น ๆ และจำเป็นสำหรับผู้ถ่ายรูปไม่เป็นและต้องการตกแต่งรูปก็คือ การ ปรับแต่งความสว่าง การปรับแต่ง contrast การปรับภาพให้ตรง ย่อภาพ ค้นหาภาพ ข้อจำเป็นสำหรับการใช้โปรแกรมนี้ก็คือความสามารถในการอ่านภาษาไทยให้ออก และใช้เวลานั่งอยู่หน้า โปรแกรมสัก 3-4 ชั่วโมงก็ศึกษา โปรแกรมนี้ได้อย่างทั่วถึง ถ้าติดขัดตรงไหนลอง search หาข้อมูลได้ใน search google ก็จะมีคำแนะนำพรั่งพรูกันออกมา ถ้าไม่เข้าใจจริง ๆ ก็ comment มาจะตอบปัญหาให้ โปรแกรมนี้เป็น โปรแกรมฟรี ของ google ซึ่งทำโปรแกรม อะไรหลายอย่างออกมา และรองรับการใช้งาน eBay แทบทั้งนั้น การ download Picasa ให้ click download ได้ที่ ตำแหน่งขวามือของ Blogนี้ที่ “Google’s photo software” ทดลองใช้โปรแกรมนี้ดูและอาจจะหันมาเอาดีทางการใช้ โปรแกรม Picasa นี้คงง่ายกว่าการพัฒนาฝีมือในการถ่ายภาพเป็นแน่สำหรับคนอย่างเราเรา

Monday, December 18, 2006

เทคนิคไร้สาระกะอีเบย์ 3 คำเตือนอย่าใช้ host เดียวในการเก็บรูป

เทคนิคไร้สาระกะอีเบย์ 3 คำเตือนอย่าใช้ host เดียวในการเก็บรูป
eBay มีบริการเพิ่มรูปภาพในคำบรรยายสินค้าของผู้ขาย ซึ่งเป็น option เสริม ของ eBay โดย eBay คิดเงินเพิ่มในราคาค่อนข้างสูง แต่มีผู้ขายสินค้าเป็น จำนวน มาก บน eBay ที่หลีกเลี่ยง option นี้ของ eBay โดย ใช้วิธี เพิ่มรูป เข้าไปใน description ของ eBay โดยตรงคือ วิธี นำรูป ไปฝากไว้กับ host ทั้ง host ฟรี และ host เสียเงิน แล้วเขียน link ไปนำภาพดังกล่าวมาใช้ ใน description ของ eBay นับเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมและสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ เป็นอย่างดี
ปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ แต่ไม่ทันได้สังเกต ก็คือ การที่ host ล่ม แล้วรูปภาพไม่ไปปรากฏ บน description บน อีเบย์ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดเวลา และไม่สามารถคาดคะเนได้ล่วงหน้า วิธีป้องกันเหตุการณ์ดังกล่าว คือ ให้เราใช้ host หลาย ๆ ที่ เพื่อเก็บรูปภาพ ของเรา ในกรณีที่เราลงสินค้าประมาณ 20 รายการขึ้นไป ให้แบ่งกระจายที่เก็บรูปภาพ ไว้ สัก 4 host เมื่อ host ใด host หนึ่ง ล่ม ก็จะทำให้รายการที่ใช้ host นั้น ไม่ปรากฏ ภาพ ส่วนที่เหลือยังปรากฏภาพ ได้ตามปกติ เปอร์เซ็นต์การปรากฏภาพ เป็น 75 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งดีกว่า ที่เราเก็บไว้เพียง host เดียว เวลา host มีปัญหา ภาพก็จะไม่ปรากฏบน อีเบย์ เลย ซึ่งถือว่าเป็นการเฉลี่ย ความเสี่ยงออกไป
สำหรับ host ที่ให้บริการ เก็บรูปภาพ ฟรี หรือ เก็บข้อมูลฟรี ลอง search ใน google ในช่อง search ด้านขวามือของหน้า Blog นี้ ดู โดยใช้คำว่า free hosting, free web hosting, free image web hosting ลองพิมพ์ทั้งคำที่ไม่มี เครื่องหมาย คำพูด และมีเครื่องหมายคำพูด เช่น “free hosting” “free web hosting” “free image web hosting” ฯลฯ จะทำให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น ซึ่งจะเห็นว่ามีผู้ให้บริการฟรีด้านนี้จำนวนมากลองเลือกใช้ดูสัก 4 แห่ง แนะนำให้ใช้ host ของ ต่างประเทศ เพราะ site ของ อีเบย์ อยู่ ต่างประเทศ ทำให้เรียกใช้รูปภาพ ได้ไวกว่า site ของไทย ถ้า อ่านไม่ออก ก็กัดฟันเอาหน่อย มั่ว ๆ ไปน่าจะพอใช้ได้ เปิด dict ประกอบด้วยถึงจะไม่ได้ host มาใช้ แต่ก็คงได้ศัพท์ภาษาอังกฤษติดมือกลับมาบ้างก็ถือว่ายังไม่เสียเที่ยว

Sunday, December 17, 2006

เทคนิคไร้สาระกะอีเบย์ 2 การขอคืนค่าไม่สบายจาย

บอกกล่าวกันก่อนว่า เทคนิคที่ว่าไร้สาระนั้น จะพยายามถ่ายทอด ทุกวัน แต่เนื่องจากเป็นการกระทำที่ไม่ได้ไตร่ตรองวางแผนล่วงหน้ามาก่อน เทคนิคต่าง ๆ จึงจะไม่เป็นลำดับขั้นตอนเท่าไหร่นัก จะมีปน ๆ กันทั้งมือใหม่ มาก จนถึงมือเก๋า หน่อย แต่อยากเขียน เพราะถ้ามัวแต่วางแผนเขียนเป็นขั้นตอนก็คงจะอีกหลายเดือนกว่าจะได้เขียน บางท่านอ่านก็อาจจะเข้าใจบางท่านอาจจะไม่เข้าใจเพราะ เป็นมือใหม่ ก็ทน ๆ อ่านกันไปก่อน มีเวลาว่างเมื่อไหร่ จะพยายามจัดหมวดหมู่ ตั้งแต่เริ่มต้น สมัคร อีเบย์ และสมัคร เพย์พาล จนมาถึงเทคนิคไร้สาระชั้นสูง บางทีอาจจะผ่านตากันมาบ้างเพราะเคยตอบไว้ใน http://www.megabaht.com แต่ก็กลัวว่าสูญหายไปเพราะวันเวลาที่เพิ่มขึ้น กะทู้ต่าง ๆ มีมากขึ้นก็ดันกะทู้เก่า ๆ ให้หายไปกับกาลเวลา จึงพยายามรวบรวมไว้ให้อยู่ภายในที่เดียวกัน
อีกอย่างที่ขอแจ้งไว้คือ บางที อาจจะใช้ คำว่า eBay หรือ อีเบย์ หรือ เพย์พาว, เพย์พาล หรือ Paypal สลับกันไปบ้างอาจจะสร้างความรำคาญให้บางท่าน แต่มีความจำเป็นต้องใช้ เพราะ ต้องการให้ search engine หาได้ครอบคลุม Keyword ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อมือใหม่ ไม่ว่าจะใช้ Keyword อะไร ก็จะพามายัง Blog นี้ได้
เทคนิคไร้สาระกะอีเบย์ 2 การขอคืนค่าไม่สบายใจ
เทคนิคอันนี้เพิ่งตอบไว้ใน
http://www.megabaht.com ขออนุญาตนำมาเผยแพร่ที่นี้ไว้ซะเลย จะได้ไม่ต้องเขียนอีก ง่ายดี ขั้นตอนมีดังนี้
เริ่มต้นจาก เมื่อเราส่งสินค้าให้ลูกค้า แล้วทำการ track หลังจากส่งสินค้า ประมาณ 2-3 วันเพื่อที่จะให้ทราบผลการเดินทางว่าสินค้าเราได้เดินทางออกจากประเทศไทยไปหรือยัง เมื่อวันที่เท่าไหร่เวลาเท่าไหร่ ถ้า track ไม่เจอ ให้อนุมานได้ว่า งวดนี้เรามีเปอร์เซนต์การได้ค่าไม่สบายใจสูงเพราะหมายเลข track ไม่ปรากฏ ทั้งนี้เราก็เริ่มต้นไม่สบายใจไปพร้อม ๆ กันด้วยเลยเพื่อเป็นการไม่ให้เสียเวลา สินค้าที่เราส่งให้ลูกค้านั้นอาจจะหายจริง หรือไม่หายก็เป็นไปได้ทั้ง 2 กรณี หลังจากนั้น เป็นเวลาประมาณ 7 วันให้เรา เช็ค track กับประเทศปลายทางที่เราส่งสินค้าให้ลูก เราสามารถเช็ค track กับต่างประเทศได้ตามปกติ เพราะจะเป็นคนละส่วนกัน ไปรษณีย์ไทยจะสามารถ track ให้ทราบถึงการเดินทางมาจนถึงส่วนท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเท่านั้น เมื่อออกไปจากประเทศไทยไทย ไปรษณีย์ไทยไม่สามารถตรวจเช็คได้(แต่เราสามารถเช็คบางประเทศได้ โดยเช็คโดยตรงจากประเทศปลายทาง) หลังจากครบ 1 สัปดาห์ เราสามารถนำใบเสร็จลงทะเบียนหรือพัสดุไปรษณีย์ไปที่ไปรษณีย์เพื่อขอทำเรื่องสอบสวนกับไปรษณีย์ใช้เวลา ประมาณ 2 อาทิตย์ก็จะแจ้งกลับมาว่า ตรวจสอบไม่พบ track number ดังกล่าว ก็ขอทำเรื่องขอคืนค่าฝากส่งพร้อม ค่าไม่สบายใจ(ค่าสินค้าที่บรรจุภายใน)คืนจากไปรษณีย์ แต่...... เราสามารถเช็ค track จากต่างประเทศได้ตามปกติ บางกรณีลูกค้าให้ feedback เรียบร้อยแล้วแต่ เช็ค track กับทางบริษัทไปรษณีย์ไทยไม่สามารถเช็คได้ จึงต้องขอคืนค่าไม่สบายใจซึ่งสามารถทำให้ผู้ขายรู้สึกดีขึ้นได้บ้าง

Friday, December 15, 2006

เทคนิคไร้สาระกะอีเบย์ 1 การจัดการค่าฝากส่ง

เทคนิคไร้สาระที่ 1 การจัดการค่าฝากส่ง
การส่งสินค้าให้กับลูกค้านับเป็นปัญหาหลัก ของการ ค้าขายบน eBay เพราะ ถ้าเราเก็บค่าฝากส่งแพง ลูกค้า ก็ไม่ซื้อสินค้ากับเราเพราะเมื่อรวมค่าขนส่งกับราคาสินค้าของเราแล้ว สินค้าของเราอาจจะแพงกว่าความต้องการของลูกค้า ถ้าสินค้าของเราไม่ได้เป็นที่ต้องการในตลาดจริง ๆ แต่ถ้าเราเก็บค่าฝากส่งสินค้าถูกเกินไป ก็เข้าเนื้อเรา อาจทำให้การค้าขายสินค้าชิ้นนั้นกลายเป็นขาดทุนก็เป็นได้ เพราะฉะนั้น ค่าส่งสินค้านับเป็นปัจจัย ต้น ๆ ใน การคำนวณเป็นค่าใช้จ่ายในการการค้าขายบน eBay ในการคิดค่าขนส่งให้ลูกค้านั้น ถ้าเป็นสินค้าที่มีราคาแพงเราสามารถคิดค่าขนส่งได้สูง ก็ ให้คิดราคาสูงสุดที่ลูกค้ายอมรับได้ แล้วฝากส่งกับ บริษัทที่จัดส่งสินค้าทั่วโลก ได้แก่ Fedex, UPS, DHL ฯลฯ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีของลูกค้า
แต่ในกรณีที่สินค้าของเราราคาไม่สูงมากนัก เราสามารถใช้บริการของบริษัทไปรษณีย์ไทยในการจัดส่งสินค้าให้ลูกค้าได้ เพราะ มาตรฐานการจัดการที่ยอมรับได้ ราคาค่อนข้างถูกการใช้เวลาเดินทางไปยังผู้รับก็พอยอมรับได้ แต่ข้อเสียก็คือไม่สามารถตรวจเช็คสินค้าระหว่างทางได้ในบางบริการ วิธีหนึ่งที่เป็นการป้องกันการขอคืนเงินจากลูกค้าในกรณีที่ลูกค้าแจ้งว่าไม่ได้รับสินค้านั้น คือการถ่าย คลิป วีดีโอ ไว้ตั้งแต่แรกเริ่มห่อสินค้าจนไปถึงการชำระค่าฝากส่งและรับใบเสร็จจากพนักงาน ควรถ่ายจ่าหน้าผู้รับให้ชัดเจน แล้วจัดส่งให้คลิป ดังกล่าวให้ลูกค้าทันทีเพื่อ แจ้งให้ทราบว่า ได้จัดส่งสินค้าให้กับทางลูกค้าแล้ว เพื่อลูกค้าจะได้สบายใจว่าเราได้จัดส่งสินค้าให้แก่ลูกค้าจริง ทั้งเมื่อมีปัญหาสามารถใช้ถ่วงเวลาเพื่อให้เลยกำหนดการขอถอนเงินคืนภายใน 45 วันของทาง
Paypal ได้ และยังเป็นหลักฐานอ้างอิงให้กับ eBay ได้ แต่ก็ยังไม่สามารถป้องการการดึงเงินคืนจาก Paypal ได้ เพียงแต่เป็นการป้องกันไว้ชั้นก่อน
สำหรับการประหยัดค่าฝากส่งสินค้าทางไปรษณีย์นั้น วิธีที่ใช้อยู่ในปัจจุบันคือการซื้อแสตมป์มาติดบนห่อซองสินค้าแทนชำระเป็นเงินสดให้กับพนักงานไปรษณีย์ ปัจจุบันแสตมป์ที่สะสมกันอยู่นี้ ถ้าเป็นแสตมป์ที่ไม่อยู่ในความนิยม ราคาหน้าดวงจะมีมูลค่าเท่ากับราคาของแสตมป์นั้น ๆ มีผู้สะสมแสตมป์จำนวนมากที่สะสมมาเป็นเวลานาน แล้วคิดจะเลิกสะสม ต้องการขายแสตมป์ดังกล่าวออกเป็นเงินสด แต่ทางบริษัทไปรษณีย์ ไม่รับซื้อคืน วิธีที่จัดการกันก็คือ ขายออกมาในราคาลดจากราคาหน้าดวงลงไป ตามความต้องการของผู้ซื้อ ซึ่งก็ลดลงประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ของราคาหน้าดวง ขั้นตอนก็ไม่ยุ่งยากอะไรเพียงแต่ใช้เวลาในวันว่าง ๆ ลงประกาศรับซื้อแสตมป์ตาม Webboard ดัง ๆ อย่าง Pantip, Sanook, Thai2hand, Hunsa ฯลฯ เมื่อมีผู้ติดต่อขายก็ทำการนัดเจอและตรวจนับส่งมอบแสตมป์กัน
วิธีใช้งาน หลังจาก ห่อสินค้าให้ลูกค้าเรียบร้อยแล้ว นำห่อซองสินค้า ชั่งน้ำหนัก เช็คราคากับทาง บริษัท ไปรษณีย์ไทย ว่าจะส่งแบบไหนราคาเท่าไร แล้วก็นำแสตมป์ที่ได้มา ติดบนห่อซองติดแสตมป์ให้ต่ำกว่าราคาที่ตรวจสอบได้เล็กน้อยแล้วเขียน ไว้บนห่อซองว่าติดแสตมป์แล้วราคาเท่าใด หลังจากนั้นให้นำฝากส่งกับพนักงานบริษัทไปรษณีย์ไทย จ่ายส่วนที่ขาดเป็นเงินสดหรือติดแสตมป์เพิ่มก็ได้ เป็นอันเรียบร้อย ช่วยให้ประหยัดค่าฝากส่งไปจากราคาจริง และยังเป็นที่ประทับใจแก่ลูกค้าอีกด้วย

Thursday, December 14, 2006

ภาพรวม eBay และ Paypal

หากจะนับวิธีการหารายได้ทางอินเตอร์เนต กันแล้ว การขายสินค้าบน Website ประมูลที่ใหญ่ที่สุดในโลก คือ eBay คงจะอยู่ใน อันดับต้น ๆ ปัจจุบันการสมัครเปิด ID ของ eBay และ การขอเปิด บัญชี Paypal ไม่ได้ยากเหมือนในอดีต ทั้งปัจจุบัน ทาง eBay ได้เข้ามาเปิด เวปไซต์ ขึ้นเป็นภาษาไทย ถึงแม้จะยังไม่สมบูรณ์ แต่ก็ทำให้ สมาชิก eBay ของประเทศไทยเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก รวมทั้ง Paypal ก็สามารถผูก กับธนาคารทางประเทศไทยได้แล้ว ยิ่งทำให้มีผู้ต้องการ เข้าสู่การค้าบนโลกไซเบอร์ บนเวปไซต์ eBay มากขึ้น
ภาพรวมของการค้าขาย eBay เริ่มต้นจากการขอสมัคร เปิด ID กับทาง eBay ซึ่งก็ต้องใช้บัตรเครดิต ในกรณีที่ไม่มีบัตรเครดิต สามารถให้ตัวแทนทำการเปิด ID ได้โดย
คลิกที่นี่ โดยเมื่อได้ ID eBay เรียบร้อย สามารถทำการซื้อและประมูลได้ แต่ยังไม่สามารถทำการขายบน eBay ได้ ต้องทำการสมัครเป็นผู้ขายอีกครั้งหนึ่งก่อน หลังจากนั้นขอเปิดใช้ บัญชี กับทาง Paypal ซึ่งทาง Paypal จะเปรียบเสมือนกับธนาคารทาง internet มีไว้สำหรับรับและจ่ายเงิน โดยใช้ email address เป็นชื่อบัญชีธนาคาร การจ่ายค่าสินค้าทาง internet เราสามารถจ่ายได้โดยใช้ บัตรเครดิต หรือ บัญชี Paypal และเมื่อต้องการรับเงินก็สามารถใช้ email address ที่ลงทะเบียน ไว้กับทาง Paypal รับเงินได้ และสุดท้ายเมื่อเราต้องการใช้เงินเราก็สามารถเบิกมาเข้าบัญชีธนาคารในประเทศไทย และเบิกถอนเป็นเงินสด โดยใช้เวลาประมาณ 5-10 วัน การขอเปิดบัญชี Paypal ต้องใช้บัตรเครดิต แต่ปัจจุบัน ทางประเทศไทยสามารถใช้บัตรเดบิต ของ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด คือ บัตร be1st และบัตร e-web card ของธนาคารกสิกรไทย สมัครเปิดบัญชีได้ แต่การสมัครโดยใช้บัตรเดบิตดังกล่าวของทั้ง 2 ธนาคารยังไม่ได้ผล 100 เปอร์เซ็นต์ มีบางครั้งที่ไม่สามารถสมัครเปิด บัญชี Paypal ได้ ในกรณีที่ไม่มีบัตรเครดิตและใช้บัตรเดบิตลองสมัครดูแล้วไม่สามารถสมัครได้ สามารถใช้บริการตัวแทนได้เช่นกันโดย คลิกที่นี่
เมื่อ เปิด ID eBay และ มี บัญชี
Paypal เรียบร้อยแล้ว ภาพการค้าขาย ง่าย ๆ จะเกิดขึ้นดังนี้คือ
1. จัดหาสินค้าที่จะขาย เริ่ม ถ่ายรูป เขียนคำบรรยาย เป็นภาษาอังกฤษ
2. เริ่มลงขายกับทาง eBay
3. รอจนหมดเวลาประมูลกับทาง eBay ไม่ว่าจะเป็น 3 วัน 7 วัน หรือ 10 วัน
4. ในกรณีที่สินค้าที่ประกาศประมูลหรือประกาศขายมีผู้ซื้อ ก็จัดส่ง invoice เพื่อเรียกเก็บค่าสินค้ากับทางลูกค้า
5. ลูกค้าจ่ายค่าสินค้า ผ่านช่องทาง รับเงิน คือ
Paypal หรือ Western Union หรือ Money Gram ฯลฯ
6. เมื่อตรวจสอบการจ่ายเงินของลูกค้าเรียบร้อยแล้ว ก็จัดส่งสินค้าให้กับทางลูกค้า
7. รอจนลูกค้าได้รับสินค้าเรียบร้อยแล้วลูกค้าจะให้ feedback กลับมาทาง เรา เราก็ให้ feedback แก่ลูกค้า เป็นอันเสร็จสิ้น การค้าขายของแต่ละชิ้นบน website eBay

นี่คือขั้นตอน การค้าขายบน eBay อย่างเรียบง่ายที่สุด แต่ในความเป็นจริงแล้ว ปัญหาที่เกิดจากการค้าขาย บน eBay เกิดขึ้นได้ทุกขั้นตอนซึ่ง ในแต่ละข้อยังแยกย่อยออกไปอีกหลายปัญหาเมื่อเกิดปัญหา สามารถแก้ไขได้ รวมทั้งเทคนิคต่าง ๆ เช่นการเขียน description ให้ สวยงาม, ใช้ program ตก แต่ง description, การประหยัดค่าขนส่งแบบพื้นฐาน การแก้ปัญหา ต่าง ๆ ไม่ว่า จะเกิดจาก ลูกค้า bid ได้แต่ไม่จ่ายเงิน ลูกค้า ไม่ติดต่อ มา ฯลฯ ใน Blog นี้จะพยายามพูดถึงเทคนิค หลายๆ เทคนิค ใน การแก้ปัญหาหรือในการป้องกันปัญหา เทคนิคการใช้เครื่องมือ และเทคนิคในการประหยัดค่าใช้จ่าย ฯลฯ ส่วนการเพิ่มยอดขายนั้น สามารถหาอ่านได้จาก web site หรือ e-book ทั่ว ๆ ไปอยู่แล้วจะไม่ขอกล่าวถึง
ทั้งนี้หากต้องการความรู้เกี่ยวกับเรื่องใด ถ้ามีความรู้เกี่ยวกับด้านนั้น ๆ อยู่ก็จะนำมาเผยแพร่ โดยเชิญ เขียน Comment ไว้ได้ภายใน Blog นี้ มาถึงบทสุดท้ายใน บทความนี้ก็ขอขอบคุณ
http://www.megabaht.com/ ซึ่งมีส่วนเป็นแรงบันดาลใจจัดทำ website ดี ๆ เพื่อเป็นที่พึ่งของ ผู้เริ่มต้น ขายสินค้า บน eBay นับว่าเป็นส่วนหนึ่งในการก้าวเข้ามาเป็น eBayer จนยืนอยู่ได้จนถึงบัดนี้ รวมถึงหนังสือ ดี ดี สำหรับมือใหม่ ทั้ง 2 เล่ม คือ รวยด้วย อีเบย์ และ รวยด้วย อีเบย์ แอดวานส์ ขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้